วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2556



How do you improve English?.............................



พยัญชนะต้น

b = บ bl = บล br=บร
c = ค / ซ ch =ช cl=คล cr=คร
d = ด dr= ดร
f = ฟ fl=ฟล fr=ฟร
g = ก /จ gh = ก gl = กล gr = กร
h = ฮ j = จ                                                                        
k = ค kl = คล kn = น kr = คร
l = ล m = ม n = น
p = พ ph = ฟ pl = พล pr = พร
q = คว r = ร
s = ซ/ส sc = สค/ส sch = สค/ช scr = สคร
sh = ช sk = สค sl = สล sm = สม
sn = สน sp = สพ spl = สพล spr = สพร
sq = สคว st = สท str = สทร sw = สว
t = ท/ต th = ด/ตซ tr = ทร
v = วฟ์ w = ว wh = ฮ/ว wr = ร
x = ซ y = ย z = ส ng = ง*
หมายเหตุ * พยัญชนะต้นใช้เฉพาะในภาษาไทย,
 คำขีดเส้นใต้ เป็นเสียงนาสิก
เสียงสระ
a = แอะ ai = ไอ au = เอา ao = เอา
ar = อาร์/ออร์ al = อาล์/ออล์ a-e = เอ au = ออ
aw = ออ ay = เอย์ e = เอะ/อี ea = อี/เอ
ear = เอีย/แอ ee = อี ew = อิว ey = อี/เอ
er = เออร์ ere = เอีย/แอ i = อิ ia = เอีย*
ir = เออ i-e = ไอ o= โอ/เอาะ/อัน oo = อู
oa = โอ oi = ออย or = เออ/ออ oor=ออ/อัว
ou = เอา/อู ow = เอา/โอ oy = ออย o-e = โอ/อัน
u = อุ/อั ua = อัว* ur = เออร์ uy = ไอ

y = ไอ/อี ye = ไอ

ตัวสะกด
b = บ bt = บท์
c = ค ch = ช ck = ค ct = คท์
d = ด dge = ดจ์
f = ฟ ff = ฟ ft = ฟท์
g = ก ge = จ ght = ท
k = ค
l = ล ll = ลล์ ld = ลด์ lf = ลฟ์
lt = ลท์ mpt = มพท์
m = ม mb = มบ์ mf = มฟ์ mp = มพ์
n = น nd = นด์ ng = ง nx,nk = งค์
nce = นส์ nse = นส์ nt = นท์ nz = นส์
p = พ pf = พฟ์ ph = ฟ pt = มท์
q = ค que = ค pth = พตซ์
s = ซ/ส sk = สค์ sp = สพ? Ss = ส
st = สท์
t = ท th = ตซ the = ด
v = ฟ ve = ฟ
w = ว
x = กซ์ xt = คซท์ y = ย ye = ย
z = ส

ตัวอย่างการอ่านออกเสียง


**********************
วิธีการสะกดอ่านเทียบ
a n = an
เทียบกับภาษาไทย แ-ะ น = แอน
สะกดอานเปรียบเทียบว่า แอะ นอ = แอน
b a g = bag
เทียบกับภาษาไทย บ แ-ะ ก = แบก
สะกดอ่านเทียบเสียงเสียงว่า บอ แอะ กอ = แบก
d i d = did
เทียบกับภาษาไทย ด อิ ด = ดิด
อ่านออกเสียงว่า ดอ อิ ดอ ดิด




เทคนิคจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
       ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษากลางที่มีความจำเป็น เนื่องจากมีบทบาทต่อผู้คนในหลากหลายอาชีพ รวมไปถึงน้อง ๆ นักศึกษาที่หลายหลักสูตรต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นพื้นฐาน ส่วนใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการจำคำศัพท์ 'เกร็ดน่ารู้ Edutainment Zone' มีเทคนิคช่วยจำมาฝาก

          .. จัดศัพท์เป็นหมวดหมู่ เช่น คำที่มีความสัมพันธ์กัน หรือมีความหมายตรงข้ามกัน จะช่วยให้จำศัพท์ได้ง่ายขึ้น อาจจดบันทึกใส่สมุดที่พกพาได้ เพื่อความสะดวกเมื่อต้องหยิบมาท่องในเวลาว่าง
          .. นำศัพท์มาใช้บ่อย ๆทำให้เกิดความเคยชิน จะจำได้แม่นยำขึ้น จากนั้นลองแต่งประโยคจากคำเหล่านั้น เพื่อฝึกการเรียบเรียงประโยค
          .. จำศัพท์จากการออกเสียง อาทิ คำที่ออกเสียงคล้าย ๆ กัน นอกจากจะช่วยให้นึกถึงความหมายได้ง่ายแล้ว ยังได้รู้หลักการออกเสียงที่ถูกต้อง
          .. ท่องศัพท์ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10 คำ และหมั่นทบทวนบ่อย ๆ ให้คุ้นเคย หากมีโอกาสสนทนากับคนพูดภาษาอังกฤษ ควรลองนำศัพท์ไปใช้ในสถานการณ์จริง
          .. ฝึกฟัง-อ่านภาษาอังกฤษจากข่าวหรือหนังสือต่าง ๆ แล้วสังเกตหาศัพท์ที่เคยท่อง จะช่วยให้เข้าใจเรื่องราวโดยรวมของเรื่องที่อ่านได้เร็วขึ้น
หลักการจำที่สำคัญอีกประการ คงต้องอยู่ที่ความขยันและความสม่ำเสมอในการท่อง เพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่ได้ผล.

แหล่งที่มา : เดลินิวส์


 เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ
รู้สึกสมองตื้อทุกครั้งเมื่อนึกถึงการที่ต้องท่องจำศัพท์ภาษาอังกฤษซะมากมายใช่มั้ย? ที่จริงการท่องศัพท์ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ทำให้ปวดหัวหรือเหนื่อยใจเสมอไปหรอก เชิญอ่านเคล็ดลับในการเรียนศัพท์ดังต่อไปนี้แล้วนำไปใช้รับรองได้ผล !
ความเกี่ยวเนื่อง: ถ้าคุณจัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันระหว่างศัพท์แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผังจะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น
เขียน: การนำคำศัพท์นั้นมาใช้จะทำให้คุณจำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองเขียนแต่งประโยคโดยนำศัพท์ใหม่ที่เรียนนั้นมาประกอบหรือแต่งเรื่องโดยใช้กลุ่มคำศัพท์หรือสำนวนที่เรียนอยู่
 วาดรูป: ดึงวิญญาณศิลปินในตัวคุณออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงศัพท์ที่คุณเรียนอยู่ ภาพที่คุณวาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต
แสดง: แสดงท่าทางประกอบคำศัพท์หรือสำนวนที่คุณกำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าคุณจะแสดงออกอย่างไรในสถานการณ์ที่คุณต้องใช้ศัพท์คำนั้น
สร้าง: ออกแบบ flashcards ศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมความหมายแล้วเปิดอ่านหรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ขึ้นทุกอาทิตย์และอย่าลืมทบทวนอันเก่าไปพร้อมๆ กันด้วย
ความสัมพันธ์: กำหนดแต่ละสีให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่จะช่วยให้คุณจำศัพท์นั้นได้แม่นขึ้นเมื่อนึกถึงคำนั้นในคราวต่อไป
ฟัง: นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ออกเสียงคล้ายๆ กับคำศัพท์ใหม่ที่คุณพยายามเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้คุณจำการออกเสียงของคำใหม่นั้น
เลือก: จำไว้ว่าการเรียนในหัวข้อที่คุณชอบหรือสนใจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ฉะนั้นคุณควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คุณคิดว่ามีประโยชน์หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่กระบวนการเลือกคำที่จะเรียนก็มีผลให้คุณจำได้แม่นและเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน !
ข้อจำกัด: คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจำศัพท์ที่มีอยู่ในดิกชันนารี่ทั้งหมดได้ในวันเดียว เพราะฉะนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 15 คำก็พอแล้ว ซึ่งถ้าพยายามจำให้มากคำเกินไปกว่านี้แทนที่มันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกลับจะทำให้คุณสมองตื้อแทน
สังเกต: พยายามสังเกตหาคำศัพท์ที่คุณกำลังเรียนอยู่เมื่ออ่านหรือฟังภาษาอังกฤษ